คุณเคยส่องกระจกแล้วสงสัยไหมว่า “ทำไมเราถึงอ้วนลงพุงนะ?” ทั้งที่น้ำหนักตัวก็ไม่ได้มากมาย แต่รอบเอวกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว วันนี้ Johnson Health Tech จะพาคุณมาทำความรู้จักสาเหตุของอ้วนลงพุง พร้อมเผยพฤติกรรมใกล้ตัวที่ทำให้พุงใหญ่แบบไม่รู้ตัว พร้อมแนะนำตัวช่วยดีๆ ให้คุณกลับมาฟิตเฟิร์มและห่างไกลโรคกันอีกครั้ง
อ้วนลงพุง คืออะไร
“อ้วนลงพุง” คือ ภาวะที่มีไขมันสะสมบริเวณช่องท้องมากผิดปกติ โดยผู้ชายจะมีรอบเอวเกิน 90 ซม. และผู้หญิงเกิน 80 ซม. ไขมันประเภทนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เสียบุคลิกภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพและโรคร้ายแรงต่างๆ มากมาย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคไขมันในเลือดสูง ดังนั้น การสังเกตตัวเองว่ามีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องหรือไม่ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่โรคร้ายที่รักษาได้ยากในอนาคต
ภาวะแทรกซ้อนของอ้วนลงพุง"
อ้วนลงพุงไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาด้านรูปร่างเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอีกหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เนื่องจากไขมันส่วนเกินบริเวณท้องทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลินได้ง่าย โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับและการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย นอกจากนี้ภาวะไขมันสะสมที่ท้องยังส่งผลต่อระบบฮอร์โมน ทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน และขาดสมาธิในการทำงานอีกด้วย
7 พฤติกรรมที่ทำให้พุงใหญ่โดยไม่รู้ตัว
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมอยู่ดีๆ พุงก็ใหญ่ขึ้น ทั้งที่น้ำหนักตัวก็ไม่ได้เพิ่มมากมาย ปัญหานี้อาจเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่คุณเผลอทำโดยไม่รู้ตัว ซึ่งส่งผลให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาสำรวจ 7 พฤติกรรมที่ทำให้พุงใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัวกันดีกว่า เพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ได้ทันเวลา
กินอาหารแปรรูปและน้ำตาลสูง
อาหารแปรรูปและน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ รวมถึงเครื่องดื่มหวานๆ อย่างน้ำอัดลม ชาไข่มุก และกาแฟที่เติมน้ำตาลเยอะๆ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างกายใช้น้ำตาลไม่หมด ก็จะเปลี่ยนไปสะสมเป็นไขมันได้ง่าย โดยเฉพาะไขมันรอบเอวที่กำจัดออกยาก ดังนั้น หากอยากลดพุง ควรเน้นรับประทานอาหารธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และโปรตีนคุณภาพสูง
นอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอ
การอดนอนหรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลให้ระบบฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร เช่น ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเมื่อเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้คุณรู้สึกหิวบ่อย กินมากกว่าเดิม และมักเลือกกินอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น ของหวานหรืออาหารจุบจิบในช่วงกลางคืน ยิ่งถ้าทำพฤติกรรมนี้บ่อยครั้ง ไขมันหน้าท้องก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรนอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากอ้วนลงพุง
เครียดสะสม ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง
เมื่อร่างกายมีความเครียดสะสมจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมามากขึ้น ฮอร์โมนชนิดนี้มีผลกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บไขมันเอาไว้ที่บริเวณหน้าท้องโดยตรง ดังนั้น คนที่เครียดบ่อยๆ จะสังเกตเห็นได้ว่าพุงใหญ่ขึ้นได้ง่ายกว่าคนทั่วไป วิธีแก้ไขคือควรหากิจกรรมคลายเครียด เช่น เดินเล่น ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ หรือฝึกโยคะ เพื่อปรับสมดุลร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้น
นั่งนาน ไม่ค่อยขยับตัว
หลายคนต้องนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง ทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ช้าลง การนั่งนานๆ โดยไม่ลุกขึ้นเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายเลยจะทำให้ไขมันสะสมที่บริเวณหน้าท้องได้เร็วขึ้น เพราะกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน ร่างกายจึงเก็บไขมันได้ง่ายขึ้น ลองลุกขึ้นมายืดเส้นสายหรือเดินบ่อยๆ จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญและลดไขมันส่วนเกินได้ดีกว่าเดิม
ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
แอลกอฮอล์ให้พลังงานที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์และเหล้าหวานๆ เมื่อดื่มเป็นประจำ พลังงานส่วนเกินที่ร่างกายเผาผลาญไม่หมดจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมบริเวณท้อง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาอ้วนลงพุงตามมา หากอยากลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง ควรลดการดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หรือหลีกเลี่ยงไปเลยจะดีที่สุด
ไม่ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
หลายคนออกกำลังกายด้วยวิธีคาร์ดิโออย่างเดียว เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเดินเร็ว แต่ลืมการเวทเทรนนิ่ง ซึ่งการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและกระตุ้นระบบเผาผลาญในระยะยาวให้ดีขึ้น หากไม่มีการฝึกกล้ามเนื้อเลย ร่างกายจะมีมวลกล้ามเนื้อน้อยลง ทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง ส่งผลให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องง่ายกว่าเดิม ดังนั้นควรผสมผสานการเวทเทรนนิ่งร่วมกับคาร์ดิโอเพื่อให้การลดพุงมีประสิทธิภาพสูงสุด
กินเร็ว ไม่เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
พฤติกรรมการกินอาหารเร็วเกินไป จะทำให้ร่างกายรับประทานอาหารมากกว่าที่จำเป็นโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากสมองใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการรับรู้ความอิ่ม การกินเร็วและไม่เคี้ยวอาหารให้ละเอียดจึงทำให้กินเกินพลังงานที่ร่างกายต้องการ เมื่อร่างกายใช้พลังงานไม่หมดก็จะเปลี่ยนไปสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะไขมันที่หน้าท้อง ควรฝึกนิสัยกินอาหารช้าลง เคี้ยวอาหารให้ละเอียด จะช่วยให้คุณอิ่มเร็วและกินอาหารน้อยลงได้โดยอัตโนมัติ
ฟิตหุ่น กระชับสัดส่วน ลงพุง ลดโรค ด้วย เครื่องกรรเชียงบก จาก Johnson Health Tech
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาอ้วนลงพุง และมองหาวิธีที่ได้ผลจริงในการลดไขมันส่วนเกิน เครื่องกรรเชียงบก (Rowing Machine) จาก Johnson Health Tech คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณในขณะนี้
เครื่องกรรเชียงบกเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้อย่างตรงจุด ด้วยการเคลื่อนไหวในลักษณะพายเรือที่ให้ร่างกายทุกส่วนได้ออกแรง ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หลัง รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้อง
ที่สำคัญการใช้งานเครื่องกรรเชียงบกเป็นการออกกำลังกายที่ลดแรงกระแทก ไม่ทำร้ายข้อเข่าและข้อเท้า จึงเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย หรือผู้สูงอายุที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและเสริมสร้างระบบหัวใจและปอดให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากไขมันสะสม เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคไขมันพอกตับได้อีกด้วย สั่งซื้อเครื่องกรรเชียงบกจาก Johnson Health Tech Thailand วันนี้ เพื่อการออกกำลังกายที่สะดวกและมีประสิทธิภาพจากที่บ้านของคุณเอง ติดต่อสอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม โทรศัพท์: 02-751-9360 หรือ 090-090-6797 อีเมล jhtthailand@johnsonfitness.com
ติดตามข้อมูลข่าวสาร และโปรโมชั่นเด็ดจาก จาก Johnson Health Tech Thailand ได้ที่
Facebook: Johnson Health Tech Thailand
Instagram johnsonfitnessth
Line: Johnson Health TH
YouTube: Johnson Health Tech Thailand