4 วิธีปั่นจักรยานลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนได้จริง ถ้าพูดถึงการปั่นจักรยาน
ก็ถือเป็นการออกกำลังกายอีกอย่างนึงที่ได้รับความนิยม การปั่นจักรยานที่ดีจะสามารถช่วยเผาผลาญไขมันและคุมน้ำหนักได้ แต่จะมีวิธีปั่นจักรยานอย่างไรให้ได้ผลไวและเร็วที่สุด ตามมาดูกันเลยค่ะ
- กินก่อนปั่นหรือหลังปั่นดี
การออกกำลังกายทุกอย่างต้องใช้พลังงาน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารตุนไว้ให้แน่นท้อง ก่อนจะปั่นจักรยานออกกำลังกายก็ควรรองท้องเพื่อให้มีพลังงานและช่วยให้ไม่หิวจัดหลังจากปั่นจักรยานลดน้ำหนักเสร็จ และไม่ควรกินอาหารหลังจากออกกำลังกายทันทีเพราะจะทำให้จุกแต่ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อทดแทนเหงื่อที่เสียไป
- ปั่นจักรยานด้วยความเร็วสม่ำเสมอ
หลายคนที่หวังจะปั่นจักรยานด้วยการปั่นแบบแรง ๆ เร็ว ๆ โดยคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่จะช่วยเผาผลาญเซลลูไลท์บริเวณต้นขาได้ดีกว่า ถือว่าเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะการปั่นจักรยานด้วยรอบปั่นเร็วจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อขาและเอวได้ ดังนั้นควรเลือกปั่นจักรยานด้วยวิธีที่เหมาะสม คือ ปั่นด้วยความเร็วแบบสม่ำเสมอ และเลือกใช้เกียร์เบา ๆ จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีกว่าและหากทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ จะทำให้น้ำหนักตัวลดและต้นขาก็จะดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
- จักรยานเอนปั่น เหมาะกับผู้สูงอายุจริงหรือ ?
- เริ่มวันนี้ไม่สาย..เปลี่ยน mind set เพื่อสุขภาพในปี 2020
- บอกลาฟิตเนสกับ Top 5 ลู่วิ่งไฟฟ้าในบ้านของJohnson
- ไม่ควรหักโหมมากเกินไป
นักปั่นจักรยานมือใหม่ ไม่ควรเน้นปั่นจักรยานแบบหักโหม เช่น ปั่นด้วยแรงต้านมาก ๆ วิธีนี้นอกจากจะไม่ทำให้ขาเล็กลงแล้ว แต่จะทำให้กล้ามเนื้อตรงขาใหญ่ขึ้นอีกด้วย หรือบางคนปั่นด้วยความแรงโดยไม่มีหยุดพัก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อได้ ดังนั้นเราควรปั่นที่ความเร็วประมาณ 60 รอบ/นาที (RPM : revolutions per minute) และปั่นนานต่อเนื่อง 10 นาที จากนั้นค่อยเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะลดความเร็วลงมาเป็นระดับธรรมดาอีกครั้ง การปั่นแบบนี้จะทำให้กล้ามเนื้อเคยชิน และดีต่อร่างกายทุกส่วน
- เลือกปั่นจักรยานตามความเหมาะสม
โดยวิธีการปั่นจักรยานลดน้ำหนักที่เราจะพูดกันวันนี้มี 2 อย่าง คือ
1. คาร์ดิโอ (เหมาะสำหรับเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย) คือ การออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง เช่น เดิน ปั่นจักรยาน เต้นโดย การออกกำลังกายรูปแบบนี้ จะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เน้นการใช้พลังจากมัดกล้ามเนื้อไม่เน้นหนัก แต่มุ่งเน้นไปที่การขยับเขยื้อนร่างกายและระยะเวลาซึ่งมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ออกกำลังกายได้45-60 นาที
2. อินเทอร์วอล (อยากเผาผลาญแคลอรี่อย่างรวดเร็ว) คือการออกกำลังที่มีความแปรปรวน ของ ความเร็วและความหนักหน่วงตลอดเวลา เช่น การปั่นเร็ว 30 วินาที และปั่นช้า 90 วินาที แล้วทำซ้ำ แบบนี้ 10-15 นาที
เทคนิคการปั่นจักรยานสำหรับมือใหม่
1. ยืดกล้ามเนื้อ (stretching) ตามปกติ
2.วอร์มอัพด้วยการเริ่มปั่นเบา ๆ 5 นาที เร่งความเร็วขึ้นจนเมื่อถึงนาทีที่ 5 ให้ Heart Rate (HR) อยู่ที่ 60% – 70% ของ MHR
3. เมื่อเข้านาทีที่ 6 ให้คุณปั่นสุดแรงเกิด (sprint) ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ต้องกับให้ถึงสุดแรงเกิดจริง ๆ แต่ดูที่ HR ให้อยู่ที่ 80% – 90% ของ MHR ปั่นให้เร็วสุด ๆ แบบนี้ 20 วินาที
4. เมื่อครบ 20 วินาที ให้ผ่อนลงมา แล้วปั่นตามอัตราปกติ 1 นาที
5. เมื่อปั่นตามอัตราปกติครบ 1 นาที ให้ทำตามวงจรในข้อ 3 และ 4 ใหม่
6. ทำเป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แต่อย่าให้เกิน 10 – 15 นาที (ย้ำว่าไม่ควรเกิน 15 นาที)
7.คูลดาวน์ โดยผ่อนลงมาปั่นให้ช้าลง ประมาณ 5 นาที สำหรับมือใหม่ ในครั้งแรกให้ลองทำแค่ 4 – 5 วงจรสักระยะแล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละรอบ แต่อย่าให้เกิน 15 นาที และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ต้องใช้เวลาพักฟื้นร่างกายนาน ดังนั้นในหนึ่งสัปดาห์ทำสัก 3 ครั้งก็พอ
หากใครกำลังมองหาเจ้าจักรยานปั่นเพื่อใช้ในการออกกำลังกายก็สามารถเลือกชมสินค้าคุณภาพได้ที่ Exercise Bikes เราออกแบบสินค้าเพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แข็งแรงทนทาน ช่วยให้สุขภาพคุณดีขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ อย่าลืมติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่ Johnson Health Tech Thailand
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์ติดต่อ: 02-751-9360
หน่วยงานขายปลีก: 090-090-6797
Email: phachara@johnsonfitness.com
หน่วยงานขายโครงการ: 086-974-9102
Email: woraseth@johnsonfitness.com